ส่องธุรกิจ “ประวีณ จันทร์คล้าย” หรือ “กำนันนกนครปฐม” หลังถูกเชื่อมโยงเหตุการณ์ยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตภายในงานเลี้ยงของตนเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา พบถือหุ้นอยู่ใน 2 บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำธุรกิจ 5 ปี มีรายได้รวมกว่า 2.6 พันล้านบาท
“บิ๊กโจ๊ก” สั่งตรวจสอบนายตำรวจทั้ง 21 นายตั้งแต่ชั้นประทวนถึงผู้กำกับที่ไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว ผิด 157 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ผู้กระทำผิดหลบหนีไปหรือไม่ และต้องรายงานให้ทราบภายใน 20 วัน
ชื่อของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก กำนันตำบลตาก้อง อ.เมืองนครปฐม ได้รับความสนใจจากสังคมทันทีหลังถูกพบมีความเชื่อมโยงเหตุการณ์ยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง เสียชีวิต และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับได้รับบาดเจ็บสาเหตุ ในพื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม เมื่อคืนที่ผ่านมา
ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบข้อมูลการถือหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ผ่านระบบ Creden Data ผู้ให้บริการด้านบริการวิคราะห์ข้อมูลบริษัทครบวงจร พบว่า
นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก นครปฐม ถือหุ้นร่วมกับคนในตระกูล จันทร์คล้าย อยู่ใน 2 บริษัทที่ยังประกอบกิจการ คือ ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด
เมื่อดูผลประกอบของทั้ง 2 บริษัท 5 ปีย้อนหลัง พบว่า มีรายได้รวม 2,655.705 ล้านบาท รายจ่ายรวม 2,391.718 ล้านบาท กำไรสุทธิหลังหักภาษี 55.170 ล้านบาท
สำหรับ บริษัท ป.รวีกนก ก่อสร้าง จำกัด ประกอบธุรกิจ ก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย นายประวีณ จันทร์คล้าย ถือหุ้น 90% ร่วมกับ รินรวี จันทร์คล้าย ถือหุ้น 6.67 % และ สุวีณา จันทร์คล้าย ถือหุ้น 3.33 % ผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปีมีรายได้รวม 826.281 ล้านบาท รายจ่ายรวม 789.193 ล้านบาท กำไรสุทธิ หลังหักภาษี 29.473 ล้านบาท แต่แจ้งกำไรสุทธิเพียง 2-11 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างผลิตและจำหน่ายยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต มี นายลออง จันทร์คล้าย เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 55.00 % สุวีณา จันทร์คล้าย ถือหุ้น 30.00 % และนายประวีณ จันทร์คล้าย ถือหุ้น 15.00 % ผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี มีรายได้รวม 1,829.423 ล้านบาท รายจ่ายรวม 1,602.524 ล้านบาท กำไรสุทธิหลังหักภาษี 25.697 ล้านบาท แต่ทว่าแจ้งกำไรสุทธิเพียง 2-7 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้น มีรายงานว่า ศาลจังหวัดนครปฐม ได้อนุมัติออกหมายจับ นายธนัญชัย หมั่นมาก คนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว นอกจากนี้รายงานข่าวล่าสุด ระบุว่า “กำนันนก” ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.เมืองนครปฐมพร้อมยื่นเอกสารอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ ยุยงหรือใช้ให้ นายธนัญชัย ผู้ก่อเหตุกระทำความผิดดังกล่าว
และในส่วนของสถานที่ที่กำนันนกใช้เลี้ยงต้อนรับบรรดาตำรวจนั้น เดลินิวส์ได้ลงพื้นที่พบว่าเป็นบริษัทรับเหมาของกำนันนก ที่มีทั้งรถบดถนนและรถยนต์เบนท์ลีย์ มูลค่ามากกว่า 26 ล้านบาท จอดอยู่ ซึ่งในงานนี้นอกเหนือจาก พ.ต.ต. ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ที่เสียชีวิต และ พ.ต.ท. วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่กว่า 21 นาย อยู่ในเหตุการณ์ เป็นตำรวจชั้นประทวนตั้งแต่ ส.ต.ต.-ด.ต. 10 นาย, ชั้นสัญญาบัตรตั้งแต่ ร.ต.ท. – พ.ต.อ. 12 นาย, สังกัดตำรวจทางหลวง, ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม, สภ. กระทุ่มแบน และ สน.พญาไท รายชื่อตำรวจที่ไปร่วมงาน
1.พ.ต.อ. วชิรา ยาวไทยสงค์ ผกก.2 บก.ทล.
2.พ.ต.อ. ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม
3.พ.ต.อ. กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท
4.ด.ต. ชนาณัฐ วุฒิยากร ผบ.หมู่ บก.ทล.
5.พ.ต.ท. ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สว.ฝอ.กก.2บก.ทล
6. จ.ส.ต. เมทิศกร พันสิจันทร์ ผบ.หมู่ ทล.1 บก.ทล.
7. จ.ส.ต. พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล. กก.2
8. พ.ต.ท. เกียรติดักดิ์ สมสุข สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน
9. ร.ต.ท. นิมิตร สลิดกุล
10. ร.ต.อ. อนุชิต บรรณชัย รอง สว.ปทส.5
11. ด.ต. สราวุฒิ เชียงทอง ผบ.หมู่ สทล.1 กก.2
12. จ.ส.ต. ทศพล แซ่อึ้ง ผบ.หมู่ สทล.1 กก.2
13. จ.ส.ต. อภิรักษ์ โรจน์พวง ผบ.หมู่กก.5 ปคม.
14. ส.ต.ท. สุทธิกานต์ แซ่ล้อ ผบ.หมู่คฝ.ภ.จว.นครปฐม
15. ส.ต.ต. ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผบ.หมู่ คฝ.ภ.จว.นครปฐม
16. พ.ต.ท. ภมร วรญาวิศุทธิ์ สว.สส.สภ.สระยายโสม
17. ร.ต.อ. ประสมมาศ แสงสุขมี รอง สว.จร.สภ.กำแพงแสง
18. ด.ต. ถนอม ศักดิ์มีศรี ผบ.หมู่ สภ.สามความเผือก
19. ร.ต.ท. ณรงค์ศักดิ์ แดงอำไพ รอง สว.สทล.1 กก.2 ทล.
20. ส.ต.ต. สรรเสริญ ศรีอุบล ผบ.หมู่คฝ.ภ.จว.นครปฐม
21. พ.ต.ท. วคิน พันปี รอง ผกก.2บก.ทล.
ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้มีการสั่งสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 21 นายที่เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวว่าผิดต่อมาตรา 157 ละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไหม โดยล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการสอบสวนว่าในขณะเกิดเหตุนั้น มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุหลายนาย ตำรวจมีอำนาจจับกุม แต่กลับปล่อยให้ผู้กระทำผิดหลบหนีไปได้ และอาจส่งผลต่อการทำงานของตำรวจ จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัด และรายงานให้ทราบใน 20 วัน
ฐานเศรษฐกิจ, เดลินิวส์
