พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำทีมแถลงรวบเครือข่ายผู้ค้าอาวุธสงคราม สั่งกำชับเร่งขยายผล หากพบใครเอี่ยวเอาหมด

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.9 ร่วมกับ ภ.จว.พัทลุง และ สภ.ควนขนุน ได้เข้าล้อมจับกุมและวิสามัญ ‘ไอ้แกร๊ก’ จากการที่ได้ใช้อาวุธปืนสงครามต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งอีกกรณีหนึ่ง เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ได้เกิดเหตุคนร้ายนำอาวุธปืนสงครามมายิงบ้านคู่กรณี สาเหตุจากการขับรถเฉี่ยวชนกัน ซึ่งได้มีการจับกุมคนร้ายกับพวกพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้แล้ว ตามที่ปรากฏตามข่าวและสื่อโซเชียลมีเดีย นั้น

โดยทุกเหตุการณ์มีการใช้อาวุธปืนสงครามในการก่อเหตุทั้งสิ้น จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.สส.ภ.9 พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ให้มีการออกสืบสวนหาข่าว ติดตามจับกุมคนร้าย กลุ่มมือปืนรับจ้าง หรือพ่อค้ายาเสพติด ที่เชื่อว่ามีอาวุธปืนสงครามอยู่ในความครอบครอง ตลอดจนสืบสวนหาเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน ที่มีส่วนรู้เห็นในการนำอาวุธปืนสงครามมาจำหน่ายให้กับกลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ จว.พัทลุง ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.9 ร่วมกับ ภ.จว.พัทลุง และ สภ.กงหรา ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทลุงเข้าทำการตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหากลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย

  1. วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 06.30 น. ได้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุม นายอภิสิทธิ์ฯ หรือ บิว ฉิมพูน อายุ 29 ปี อยู่บ้าน ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จว.พัทลุง พร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืน เอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก พร้อมแมกกาซีน กระสุนปืน รวมกว่า 100 นัด ยาบ้าและไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ภายในบ้านพักของนายอภิสิทธิ์ฯ เอง
  2. วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น. ได้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุม นายวสันต์ฯ หรือ ผอม รอดนวน อายุ 33 ปี อยู่บ้าน ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จว.พัทลุง พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้น กึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อมกระสุนปืน 14 นัด และไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง ภายในบ้าน ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จว.พัทลุง
  3. วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น. ได้เข้าทำการตรวจค้นและจับกุม นายชิต มีสี อายุ 58 ปี อยู่บ้าน ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จว.พัทลุง พร้อมของกลาง อาวุธปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน และกระสุนปืนรวมกว่า 100 นัด อาวุธปืนยาวแบบไทยประดิษฐ์ พร้อมกระสุนขนาด .22 จำนวน 10 นัด และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ภายในสวนยางพารา ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จว.พัทลุง จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งสามเป็นเครือข่ายยาเสพติด โดยอาวุธปืนทั้งหมดเป็นของ นายวสันต์ฯ ซึ่ง นายวสันต์ฯ ฝากซุกซ่อนไว้กับ นายอภิสิทธิ์ฯ และ นายชิตฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จึงได้มีการขยายผล หาแหล่งที่มาของอาวุธปืนสงครามจนทราบว่า นายวสันต์ฯ ได้ซื้ออาวุธปืน เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก มาจาก จ.ส.อ.กิตติพงศ์ ไชยพรหม ข้าราชการทหาร ในราคากระบอกละ 50,000 บาท และยังทราบอีกว่านายวสันต์ฯ มีการวางแผนจะนำอาวุธปืนสงครามดังกล่าวไปยิงคู่อริ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมได้เสียก่อน

ต่อมาวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม จ.ส.อ.กิตติพงศ์ฯ ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน แบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยมิได้รับอนุญาต

รวมจับกุมขบวนการดังกล่าวได้ทั้งสิ้นจำนวน 4 ราย นอกจากนี้ จากกรณีของ นายพีรพงษ์ ขำผุด ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านคู่กรณี ที่ขับรถเฉี่ยวชนกันและไม่สามารถตกลงกันได้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหากับพวก พร้อมอาวุธปืนของกลาง

ความคืบหน้าล่าสุด พบว่าอาวุธปืนเอ็ม 16 กระบอกดังกล่าวเป็นอาวุธปืนของทางราชการ โดยมี ด.ต.ธวัชชัย เพ็ชรบุรี เบิกยืมออกมาใช้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ ด.ต.ธวัชชัยฯ ได้นำอาวุธปืนไปจำนำ เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย และได้มีการขายต่อเป็นทอด ๆ ไป ทั้งประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย จนถึงมือของ นายไพฑูร ขวัญแก้ว ลูกสมุนของ ‘ไอ้แกร๊ก’ หรือ นายประดิษฐ์ มุสิกะสง ที่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ก่อนส่งไปถึงมือ นายพีรพงษ์ฯ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดพัทลุง ออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนสงครามดังกล่าวได้จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย

  1. ด.ต.ธวัชชัย เพ็ชรบุรี
    โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  2. ร.ต.ท.พงศ์ศักดิ์ พละไชย 3. ด.ต.สุเทพ เพ็งทิพย์
    โดยกล่าวหาว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรับของโจร
  3. นายทรงพล บุญดำ 5. นายไพฑูร ขวัญแก้ว
    โดยกล่าวหาว่า สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือรับของโจร

ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ดังกล่าว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า ปฏิบัติการทลายเครือข่ายอาวุธปืนสงครามในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากในช่วงที่ผ่านมา มีเหตุอุกฉกรรจ์ในพื้นที่ จว.พัทลุง ที่เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุ นำเอาอาวุธปืนสงครามมาใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่สร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ ภ.9 ดำเนินการปราบปรามเครือข่ายลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนสงครามดังกล่าวโดยเร่งด่วน และให้ขยายผลหาที่มาของอาวุธปืนที่ถูกใช้ก่อเหตุในเหตุการณ์ที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนสงครามเพิ่มเติมได้ ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดและเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จากนี้จะมีการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติมถึงเส้นทางการนำเอาอาวุธปืนสงครามเหล่านี้มาจำหน่ายในพื้นที่ เพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้มีการก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก พี่น้องประชาชนชาว จว.พัทลุง และพื้นที่ใกล้เคียงจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข

มั่นใจทุกข่าวสารตำรวจเพื่อคุณ

policeofficialสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จาก…สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

#ข่าวอาชญกรรมภาค8 #ทุกอย่างเป็นไปเพื่อการขยายข่าวสู่สังคม #เพื่อพี่น้องประชาชน #สังคมต้องรับรู้ #สังคมเกาะป้องกัน #สังคมสดใส #สังคมความเป็นจริง #สู่สังคมมั่นคง #ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า

Back To Top